วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

โรคเอดส์

   โรคเอดส์ 
เอดส์ หรือ กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม (Acquired Immune Deficiency Syndrome - AIDS)เป็นโรคของระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (human immunodeficiency virus, HIV) ทำให้ผู้ป่วยมีการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสและการเกิดเนื้องอกบางชนิด เชื้อไวรัสเอชไอวีติดต่อผ่านทางการสัมผัสของเยื่อเมือกหรือการสัมผัสสารคัดหลั่งซึ่งมีเชื้อ เช่น เลือด น้ำอสุจิ น้ำหล่อลื่นช่องคลอด น้ำหลั่งก่อนการหลั่งอสุจิ และนมมารดา อาจติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด หรือทวารหนัก หรือช่องปากการรับเลือด, การใช้เข็มฉีดยาที่ปนเปื้อน, ติดต่อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ คลอด ให้นม หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ ดังกล่าว
ปัจจุบันมีการระบาดของเอดส์ไปทั่วโลก องค์การอนามัยโลกได้ประมาณไว้เมื่อ พ.ศ. 2552 ว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์อยู่ประมาณ 33.3 ล้านคนทั่วโลก โดยแต่ละปีมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 2.6 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ปีละ 1.8 ล้านคน องค์กร UNAIDS ประมาณไว้เมื่อ พ.ศ. 2550 ว่ามีผู้ป่วยเอดส์ในปีดังกล่าว 33.2 ล้านคนทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ 2.1 ล้านคน เป็นเด็ก 330,000 คน และ 76% ของผู้เสียชีวิตเป็นชาวแอฟริกาเขตใต้ทะเลยทรายซาฮารา รายงาน พ.ศ. 2552 ของ UNAIDS ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกแล้ว 60 ล้านคน เสียชีวิตแล้ว 25 ล้านคน เฉพาะในแอฟริกาใต้ที่เดียวมีเด็กทีต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเพราะบิดามารดาเสียชีวิตจากโรคเอดส์ 14 ล้านคน นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด
การศึกษาวิจัยทางพันธุศาสตร์ชี้ว่าเชื้อไวรัสเอชไอวีมีถิ่นกำเนิดมาจากแอฟริกากลางตะวันตกในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โรคเอดส์เป็นที่รู้จักครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ใน ค.ศ. 1981 ส่วนสาเหตุของโรคและเชื้อไวรัสเอชไอวีนั้นค้นพบในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1980
ปัจจุบันการรักษาผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถชะลอการดำเนินโรคได้ แต่ยังไม่มีหนทางรักษาให้หายขาด ไม่มีวัคซีนป้องกัน ยาต้านไวรัสสามารถลดอัตราการตายและภาวะทุพพลภาพได้ดี แต่ยาเหล่านี้ยังมีราคาแพง ผู้ป่วยในบางประเทศยังไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ องค์กรสุขภาพต่างๆ เล็งเห็นว่าการรักษาเอดส์ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก จึงให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาดของโรคเอดส์ด้วยการรณรงค์การป้องกันการติดเชื้อผ่านการสนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยและการแลกเปลี่ยนเข็มที่ใช้แล้ว เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

พฤติกรรมที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 
    ท่านที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคเอดส์ พฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การมีคู่หลายคน การมีเพศสัมพันธ์กับ เพศเดียวกัน ท่านที่ไม่รับผิดชอบ เมื่อท่านเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ท่านไม่ได้เป็นคนเดียว ท่านอาจจะนำเชื้อสู่คนที่ท่านรัก เนื่องจากโรคบางโรค ไม่มีอาการเตือน ท่านอาจจะนำเชื้อสู่คนที่ท่านรักโดยไม่ตั้งใจ โรคหลายโรคสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์การเรียนรู้ถึงพฤติกรรม เสี่ยงจะทำให้ท่านสามารถหลีกเลี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดต่อทางเพศสัมพันธ์

หมายถึง พฤติกรรมที่จะทำให้ท่านติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้แก่พฤติกรรม ดังต่อ
ไปนี้


  • มีการเปลี่ยนคู่นอนหลายคน
  • เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น
  • คู่ครองเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • ร่วมเพศกับคนที่ไม่รู้จัก
  • ดื่มสุราหรือใช้ยาเสพติดก่อนร่วมเพศ เนื่องจากจะทำให้มีการร่วมเพศที่เสี่ยงต่อ การติดโรค
  • ร่วมเพศกับผู้ติดยาเสพติด
  • ร่วมเพศทางทวารหนัก
  • ไม่สวมถุงยางขณะร่วมเพศกับคนที่ไม่ใช่ภรรยา

  หากท่านเลือกคู่ครองที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ท่านสามารถลดอัตรา การติดเชื้อลงไป 5000 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ยุ่งกับ กลุ่มเสี่ยงหากคู่นอนของ ท่านมีผลการตรวจเลือดทดสอบ HIV ให้ผลลบท่านจะลดความเสี่ยงลง 100 เท่า ดังนั้นจึงมีความจำเป็น สำหรับ คู่รักก่อนที่จะมีอะไรกันควรที่จะเลือกคู่นอน ให้ดี และควรที่จะเจาะเลือดก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ การสวมถุงยางคุมกำเนิดจะลด อัตราเสี่ยงลงไป 10 เท่า

พฤติกรรมที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

  ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ต้องมีสติอย่าหน้ามืด จนกระทั่งขาดสติ ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิด หากจะร่วมเพศกับคนที่ไม่รู้ประวัติ ควรจะคิดว่า เขาอาจจะเป็นโรคติดต่อ

-ให้งดมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ต้องสงสัยไม่ว่าจะเป็นสามีหรือคนอื่น
-ให้มีคู่คนเดียวโดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และหากจะมีคู่คน ใหม่จะต้องซักประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ประวัติคู่นอนคนก่อน ประวัติการใช้ยา เสพติด รวมทั้งสุขภาพปัจจุบันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ควรจะเจาะเลือดดูโรคเอดส์ ไวรัสตับ อักเสบบี ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์
-ให้สวมถุงยางถ้าไม่แน่ใจ ถ้าใช้สารหล่อลื่นต้องใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย
-ไม่ดื่มสุราหรือใช้ยาเสพติดก่อนร่วมเพศเพราะอาจจะขาดความยั้งคิด

 

ความหมายของโบว์แดง

     โบว์แดงเป็นสัญลักษณ์นานาชาติเพื่อระลึกและตระหนักถึงโรคเอชไอวี/เอดส์ เครื่องหมายนี้มีความหมายถึง

ความห่วงใย และใส่ใจ
      ประชากรเป็นจำนวนมากทั่วโลกสวมใส่สัญลักษณ์โบว์แดงเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาห่วงใยและใส่ใจในเรื่องโรคเอชไอวี/เอดส์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี, กลุ่มผู้เจ็บป่วยและเสียชีวิตจากเอชไอวี/เอดส์ และกลุ่มผู้ให้การดูแลรักษาผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้
ความหวัง
      โบว์แดงเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง ซึ่งได้แก่ความหวังในการหาวัคซีนเพื่อรักษาโรคนี้ และเพื่อให้ผู้ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ความช่วยเหลือและสนับสนุน
      โบว์แดงเป็นสัญลักษณ์แห่งการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์, สนับสนุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้ โบว์แดงยังแสดงถึงความพยายามอย่างเต็มที่ในการค้นหาวิธีรักษาและวัคซีน และให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ที่สูญเสียเพื่อน, สมาชิกครอบครัว หรือบุคคลที่รักไปจากโรคนี้

แต่โบว์แดงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะโบว์แดงเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่อาจมีประโยชน์ในระยะยาวเท่านั้น การลงมือปฏิบัติและทำความดีต่างหากที่จะสามารถสร้างความแตกต่างได้

ถ้าคุณได้รับแจกโบว์แดงนั้นแสดงว่าคุณกำลังได้รับการขอร้องให้ติดเข็มนี้เพื่อแสดงความใส่ใจและห่วงใยต่อเพื่อนมนุษย์นับล้านที่กำลังต่อสู้กับโรคเอชไอวี/เอดส์ใครๆก็สามารถใส่โบว์แดงได้ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์ หรือผู้ติดเชื้อก็สามารถแสดงได้ว่าคุณมีความเข้าใจเรื่องราวของโรคเอชไอวี/เอดส์เป็นอย่างดี




ผู้จัดทำ

                                                           น.ส.ธันยพร คำจันทร์              เลขที่ 5
                                                           น.ส.พรทิพย์ จันทร์คำ             เลขที่ 12
                                                           น.ส.วรัญญา ผู้สมบูรณ์วัฒนา  เลขที่ 13
                                                           น.ส.กาญจนา รุ่งนภาเวทย์      เลขที่ 15
                                                           น.ส.ณีรนุช เกื้อกูล                  เลขที่ 33

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/5

โรงเรียนอาเวมารีอา
อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

1 ความคิดเห็น:

  1. บทความเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความหมายของคำว่าโรคเอดส์

    ตอบลบ